8 สิ่งที่คนทำงานประจำ ต้องพบ

[Jenny937]

1. อย่าเป็นตัวของตัวเองเหลือเกินในโลกอินเตอร์เน็ต

คนไม่ใช่น้อยเชื่อว่าโลกอินเตอร์เน็ตเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่ว่าทราบรึเปล่าว่า HR สมัยปัจจุบันนี้นอกเหนือจากการที่จะดู resume พวกเราแล้ว ยังมองเฟสของพวกเราด้วย เพื่อนฝูงพวกเราที่เป็น HR รับรองมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่พวกเราโพสลงบนโลกอินเตอร์เน็ตของเรานั้นส่งผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระมัดระวัง หรือ


ถ้าอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆแนะนำให้แยกเฟสสถานที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาห้วยณพด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้าโง่เง่า ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่นอน

2. จงเป็น "ผู้รับจ้างมืออาชีพ"

หากอย า กเป็นพนักงานประจำที่บรรลุผลสำเร็จรวมทั้งสุขสบาย ควรเป็น "ผู้รับจ้างมืออาชีพ" ให้ได้ ผู้รับจ้างมือโปรก็คือคนที่ตระหนักได้ว่า "พวกเราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงปริมาณหนึ่ง"

ซึ่งก็กล่าวได้ว่าบริษัทเค้าอยากได้บางสิ่งบางอย่างจากเราแลกเปลี่ยนกับเงินเดือนนั้นๆเราจำต้องทราบดีว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร และทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทคาดหวังหากอยากความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่

แม้งานที่ทำอยู่มีความรู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของพวกเรา ก็ไม่สมควรอดทนทำไป น่าจะหางานที่เราทำแล้วเรามีความสุขและก็ทำได้ดีเพื่อดึงความสามารถของตนเองออกมาให้สูงที่สุด


นอกจากจะทำให้พวกเราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังมีผลให้พวกเราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ว่าก็มิได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ ทรหดอดทนทำไปจนถึงจุดหนึ่ง

เราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าบุคคลอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ หากท้ายที่สุดพวกเราพบสายอาชีพที่เรารักรวมทั้งอย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

และ ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "พวกเราถูกจ้างมาด้วยค่าจ้างจำนวนหนึ่ง" อย่าทำงานมากเกินกว่าค่าจ้างจนถึงเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ว่าควรมีคำตอบที่ดีตามออกมาด้วย เช่นได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ พี่น้องๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ปัจจุบันนี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าพ่อแม่แก่ลงทุกวี่วัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แด่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ตรากตรำหรอก แลกกับความสบายของบิดามารดา

3. มีคู่รักในสถานที่สำหรับทำงานได้แต่จำต้องสารภาพผลปรากฏว่า

ถ้าเกิดคุณเป็นผู้ที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก แนะนำว่าอย่ามีคนรักในที่ทำงาน ไม่ได้กล่าวว่าไม่ควรคบคนภายในที่ทำงาน แต่หากคบและจากนั้นก็จะต้องเห็นด้วยผลที่ตามมาให้ได้ บางทีอาจจำต้องพบเหตุการณ์อาทิเช่น

วิวาทกับแฟนมาแล้วต้องมาคุยงานกัน มีคนไหนกันบ้ า งแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าเกิดไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวี่วันหรือดำเนินการสนิทสนมก็ยังพอโอเค แต่หากกลุ่มเดียวกันบางทีก็อาจจะเมื่อยล้าหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไรรู้ทีค่อนบริษัท

4. หาผู้ที่เป็นมากกว่าสหายร่วมงานให้พบ

ไม่เหมือนกันระหว่าง "เพื่อน" กับ "สหายร่วมงาน" คืออะไร...? ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย า กก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนพ้องใหม่ไม่ย า กเท่ายุคมัธยม และก็ การหาสหายในยุคมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันหมายความว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไร พวกเราจะหาเพื่อนฝูงย า กขึ้นเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องแท้จริงดวงใจคนนึงในออฟฟิศมันย า กเพียงใด นอกจากจะมีเรื่องผล

ตอบแทน ทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราค่าจ้างรายเดือนอย่างพวกเราเป็นไปทำงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาเพื่อน ด้วยเหตุนี้วันๆพวกเราก็เลยจะพบเพียงแค่สหายร่วมทีม ซึ่งจำนวนมากรวมทั้งเป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างงี้ เราคิดว่ามันคือผลกำไรชีวิต


พย า ย า มหาคนพวกนี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้พวกเราลองถามตัวเองว่า "ถ้าเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย า กนัดคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้วววว

5. พอใจแม้กระนั้นอย่าตั้งใจทางวิ่งคนอื่นๆ โฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา

เมื่อทำงานไปนานๆพวกเราอาจเห็นสหายๆในสถานที่ทำงานของเราหลายคนเริ่ม ออกไปศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลแปลงงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตัวเอง

ไอคนนั้นคนนี้ได้ดีแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ ต้องจดจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นเด็ดขาด โฟกัสที่ทางวิ่งของเรา รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร

รู้ดีว่าปลายทางพวกเราอยากได้อะไร ทราบดีว่าวันนี้พวกเราปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบดูลู่วิ่งคนอื่นๆบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงกระตุ้นตัวเองให้พย า ย า มมากยิ่งขึ้น แม้กระนั้นอย่าเอามาเปรียบจนกระทั่งทำให้ตัวเองทุกข์

6. เล่นการเมืองกับทุกคน

เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้แปลว่าให้พวกเราไม่จริงใจกับผู้ใด แม้กระนั้นการเล่นการเมืองกับทุกคนเป็น.. การที่เรามองว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้เช่นไร มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือฝ่าฝืนตัวเองมากมายๆนะ แต่ว่าแต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ โตมาในสังคมที่แตกต่างกัน การที่เราดูแล้วทราบดีว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"

ได้ยังไงจะมีผลให้พวกเราเหนือกว่ามากมายๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมถึงบางคนที่ดูแล้วผิดจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย า ท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่รู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปดำเนินการกับใครกันแน่ ด้วยเหตุผลดังกล่าว อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!

7. โดนด่าวันนี้ ดีมากกว่าโดนดุด่าตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุพวกเรายังน้อยนี่เป็นข้อเด่นสุด เพราะเหตุว่า อายุยังน้อยความคาดหมายจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรผิดก็มักมีคนยกโทษเสมอ ถึงเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับเพื่อการทำงานสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะปลอดคนคุ้มหัวเราด้วยซ้ำ

8. เรามิได้เกิดขึ้นมาเพื่อทำงานอย่างเดียว

เรามิได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้ทุกเมื่อเชื่อวัน หลายคราที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ดังเช่นว่า คิดบัญชีซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถ ท่องเที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่เราชอบจะก่อให้อารมณ์เบิกบานขึ้น แล้วก็เพิ่มความเชื่อมั่น เนื่องจากว่าการเฟลจากที่ทำงานส่วนมากมักทำให้พวกเราท้อแท้ใจ

และขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเองในตนเอง สำหรับเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน รวมทั้งอีกเยอะแยะ ยกตัวอย่าง พวกเรามีเพื่อนฝูงคนนึงชอบตัดเย็บเสื้อผ้ามาก มุ่งมั่นขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ ช่วงนี้ดำเนินงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งใจดำเนินงานเกิดเรื่องที่ดี แม้กระนั้นหาอันอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ดำเนินการ
ประจำพนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/