เทคนิค 7 ข้อช่วยปรับคุณเลิกเป็นคน ขี้กังวล

[kaidee20]

ถ้าหากคุณเป็นคนนึงที่ชอบ คิดมาก เพ้อเจ้อ ขี้วิตกกังวล กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง

จนถึงทำให้จำต้องลำบากใจอยู่เสมอๆพวกเรามีแนวทางมาเสนอแนะที่สามารถจะช่วยให้คุณลดความกลุ้มอกกลุ้มใจ คิดมาก หรือ เพ้อเจ้อลงได้

1. ดูความนึกคิดของตน

สาระสำคัญที่สุดของการทำคือ การปล่อยให้ความคิดของคุณลอยผ่านไป

แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกสมาธิแบบรุ่งโรจน์สติเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณ


หยุดหมกมุ่นกับเรื่องในอดีตได้ โดยให้ท่านลองสังเกตการณ์ความนึกคิดของตัวเอง


มองว่าตนเองกำลังวิตกกังวลอยู่กับเรื่องอะไร และ จะจัดการกับปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน

ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วสังเกตความนึกคิดของตัวเองดู คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไม่มีขอบเขตจริงๆ

และก็ในตอนที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแม้กระนั้นจะแย่ลงเพียงแค่นั้น แต่จิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

รวมทั้ง เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีที่ว่างในการยอมรับฟังสิ่งที่ประณีตยิ่งขึ้น

2. เขียนความคิดของตัวเอง

อีกวิธีนึง ที่จะสามารถช่วยหยุดความนึกคิดฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือ การระบายให้กับคนที่มีมุมมองวิธีคิดไม่เหมือนกัน

ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้แนวทางเขียนระบายความคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้


ด้วยเหตุว่า การเขียนทำให้พวกเราคิดอย่ างเป็นระบบขึ้นมาก ถ้าเกิดคุณเก็บความคิดเหล่านั้นไว้แต่ในหัว


นอกจากมันจะไปสุมกันจนเป็นเทือกเขามันยังส่งผลให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น

3. ระบุขณะสำหรับ "การหยุดใช้ความคิด"

การกำหนดเวลา "หยุดใช้ความคิด" ช่วยห้ามไม่ให้ท่านหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากจนเกินไป

ดังเช่นว่า การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลานอนหลับ

มีข้อเสนอแนะว่าให้แบ่งเวลาไว้ราว 20 นาทีต่อวัน สำหรับการสะท้อนความคิดของตน

ภายในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตัวเองไม่สบายใจ พิจารณาครุ่นคิด เพ้อเจ้อได้เต็มกำลังตามอยาก แล้วพอหมดเวลา

ก็ให้แปรไปทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์กว่า หากคุณเริ่มคิดมากนอกช่วงเวลาที่กำหนดไว้เมื่อใด

ก็ให้เตือนตนเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดขณะที่ระบุดีมากยิ่งกว่า

4. เบี่ยงเบนความนึกคิดของตน

ฟังดูง่ายๆแต่ว่าที่จริงการจดจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมนี่มันย ากนะ

ลองบริหารร่างกายหรือเล่นเกมมองเมื่อรู้สึกตัวว่าตนเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์แล้วก็ร่างกาย

ผู้เชี่ยวชาญคนไม่ใช่น้อยก็เห็นด้วยกับวิธีนี้หมายถึงให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความสนใจของคุณ


ซึ่งควรจะเป็นกิจก ร ร มที่ใช้ทั้งยังร่างกาย ความคิด แล้วก็ การร่วมเล่นกับคนอื่นๆ เป็นต้นว่า เทนนิส หรือการเดินเล่นกับสหายสักคน

5. จุดโฟกัสที่สิ่งที่ทำได้ในปัจจุบัน

อีกหนึ่งแนวทางแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือทำอย่ าไปจุดโฟกัสในสิ่งที่คุณจะต้องทำ สิ่งที่ยังมิได้ทำ หรือ

แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว แต่ให้พุ่งความสนใจไปในที่สิ่งซึ่งสามารถทำได้ในขณะนี้ก็พอ

ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหนก็ตาม รวมทั้งลงมือทำมันซะ อย่างนี้ทุกครั้งที่เรากังวล

ถึงปัญหาในเรื่องใดๆก็ตามพวกเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างเยอะขึ้นเรื่อยๆ

6. นับถือความคิดเห็นของตน

เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนกระทั่งไม่ยอมตกลงใจส่วนใดส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื่องจากคุณไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูก

ควรทำความเข้าใจที่จะเคารพความเห็นของตนเองยิ่งคิดมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งลังเลในความนึกคิดของตัวเองมากแค่นั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้

เป็นเรื่องปกติที่จะไม่ค่อยสบายใจว่าคุณเลือกงานผิด แต่งงานกับผู้ที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง หรือแม้กระทั้งขับรถกลับไปอยู่ที่บ้านผิดทาง

แต่ว่าข้อผิดพลาดก็มิได้นำมาซึ่งการก่อให้เกิดหายนะเสมอ แถมยังเป็นช่องทางให้ได้ทำความเข้าใจและก็เติบโตขึ้นด้วย

คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับข้อผิดพลาดเลย และ ให้เข้าใจไว้ว่าความคิดเห็นหรือวิชาความรู้ของ

คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามระยะเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบและก็เป็นอิสระจากข้างในอย่ างตามที่เป็นจริง
วิตกกังวล 
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/