ตามสถิติ ตับแข็ง เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของชาวโลกราว 25,000 คนในแต่ละปี ทั้งถูกจัดให้เป็นมูลเหตุการถึงแก่กรรมที่เกิดขึ้นจากโรคเป็นอันดับที่ 8ตับแข็ง เป็นผลมาจากเยื่อตับถูกทำลายจากหลายกรณีอยู่เรื่อยๆเป็นเวลานาน นำไปสู่ตับอักเสบเรื้อรัง เกิดพังผืดในเนื้อตับ หากว่ามิได้รับการดูแลรักษาที่สมควรจะเปลี่ยนเป็นโรคตับแข็งท้ายสุด เมื่อเกิดตับแข็ง ตับไม่อาจที่จะใช้งานได้เป็นปกติ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆดังเช่น โรคตับเหลือง ท้องมาน ตกประหม่า เลือดไหลง่าย เส้นโลหิตโป่งพองในหลอดอาหาร ตับวาย มะเร็งตับและก็อาจเป็นไปได้ถึงแก่ชีวิตได้
(https://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2021/03/11124y.jpg) โรคตับแข็ง (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/cirrhosis)สามารถมีเหตุมาจากหลายสาเหตุ เช่น
[list=1]
- เชื้อโรคตับอักเสบเรื้อรัง เป็นต้นว่า เชื้อโรคตับอักเสบบีรวมทั้งซี
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากรวมทั้งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
- โรคท่อน้ำดีฝ่อตั้งแต่ตอนแรกกำเนิด (Biliary atresia)
- การได้รับยาบางอย่างหรือสมุนไพรบางอย่างที่ส่งผลต่อตับ
- ภาวะไขมันคั่งตับ มักพบได้ทั่วไปในคนอ้วน หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- การมีภาวการณ์หัวใจเบื้องขวาล้มเหลวเรื้อรัง
- มีการอุดตันของเส้นเลือดดำทางออกของตับ
(https://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2021/03/11126y.jpg) เมื่อเป็นโรค
ตับแข็งจะรักษาได้อย่างไร
[list=1]
- รักษาตามสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดโรคตับ ดังเช่นว่า โรคตับจากดื่มแอลกอฮอล์ สมควรหยุดการดื่มแอลกอฮอล์ โรคตับจากไวรัสตับอักเสบบีและซี ควรรักษาโดยการใช้ยาต่อต้านเชื้อโรค ไขมันพอกตับควรควบคุมโภชนาการอาหารชนิดแป้ง น้ำตาลแล้วก็ไขมัน ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารครบหมู่ สารอาหารรวมทั้งพลังงานพอเพียง ไม่รับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งหลีกยาที่ไม่สำคัญ
- ควรเจอแพทย์ตามนัดหมายตามนัดทุกครั้ง เพื่อเข้ารับการดูแลและรักษาภาวะแทรกซ้อนจากโรคตับ
ในอดีตโรคตับแข็งไม่สามารถรักษาให้หายเป็นปลิดทิ้งได้ ยกเว้นการปลูกถ่ายตับกรณีที่โรคเป็นมากแล้ว อย่างไรก็ตามบัดเดี๋ยวนี้พบว่าการเอามูลเหตุที่กระตุ้นให้ตับเสียหายออกไปได้ก็สามารถทำให้การทำงานของตับดีมากยิ่งขึ้นได้ อย่างเช่น การใช้ยาบรรเทาเชื้อไวรัสบีหรือซี การหยุดดื่มแอลกอฮอล์ การให้ยาขับเหล็กหรือทองแดง ฯลฯ