(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/03/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2..%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89-696x364.jpg)หลายองค์กรประเมินผลงานบุคลากรกันเป็นทุกปี แต่ว่าก็มีบางแห่งจัดกันปีละ 2 ครั้ง
เพื่อตรวจเช็คหลักการทำงานของบุคลากร รวมไปถึงความรู้สึกนึกคิด
ซึ่งไม่ได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความพึงพอใจ จากการตอบปัญหา "ถูก" หรือ "ไม่ถูก" ที่สำคัญ
สิ่งที่ได้บอกออกไปในระหว่างการคาดคะเนบางครั้งอาจจะสร้างสรรค์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว
แต่บางบริษัทคิดว่าการประเมินผลงานที่มีขึ้นทุกปีเกิดเรื่องโบราณ
เพราะว่านายควรประเมินเรื่องอื่นๆทั้งสมรรถภาพในการทำงาน
การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนถึงทัศนคติ ทำให้หลากหลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาย้อนกลับไป
หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือผู้ฝึกสอนชิ่งแทน แม้กระนั้นไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด
สิ่งสำคัญเป็นพนักงานจะต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีคุณภาพ
และก็มี 5 ประโยคที่ไม่ควรเอ่ยออกมา เพราะว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผลลบมากกว่า
ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงหัวข้อนี้ไว้อย่างน่าดึงดูด
"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"
ประโยคนี้นอกเหนือจากการที่จะแสดงให้เห็นว่า ผู้พูดจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขมารยาท (https://freelydays.com/13385/)ไม่ให้พูดโผงผางออกมาแล้ว
ควรจะจดจำไว้ด้วยว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description
ไม่ได้ครอบคลุมหน้าที่ที่ต้องทำทั้งหมดทั้งปวง 100% แถมยังต้องปรับเปลี่ยนตามภาวะธุรกิจอีกด้วย
เจ้านายชื่นชอบบุคลากรที่มีความยืดหยุ่น พร้อมต่อกรกับงานหลายๆอย่าง
ด้วยทัศนคติเชิงบวก แม้กระนั้นถ้าอยากได้สะท้อนถึงสิ่งที่จำเป็นที่มากเหลือเกินของนายจ้าง
ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน อย่างเช่น "งานเดิมที่กำหนดเส้น ต า ย เอาไว้
ทำให้ยังไม่มีโอกาสทำหน้าที่เพิ่มเติม" หรืออธิบายว่า
คุณไม่สมควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เพราะเหตุว่ามีคนอื่นที่เหมาะสมอย่างยิ่งกว่า
"คุณคาดหวังจากฉันมากจนเกินไป"
แน่ๆว่า เจ้านายย่อมมุ่งมาดหลายเรื่อง
ซึ่งอาจส่งผลให้พนักงานมีความรู้สึกว่าดำเนินการเกินค่าตอบแทนที่ได้รับ
แม้กระนั้นการปกป้องคุ้มครองตนเองมากเกินความจำเป็นก็อาจจะไม่ใช่แนวทางที่เยี่ยมที่สุด
ด้วยเหตุนั้น การละทนและก็ควบคุมสติเป็นหนทางที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร
เนื่องจากการแสดงอารมณ์ออกมาบางทีอาจมิได้ทำให้อะไรดีขึ้น
"ฉันทำไม่ได้"
การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นข้อจำกัด ซึ่งเว้นเสียแต่ผู้พูดจะให้ความหมายคิดของตน
เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองสามารถทำเป็นแล้ว ยังจำกัดความคิดของคนอื่นๆ
รวมทั้งผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับความสามารถของผู้พูดด้วย
การพูดประโยคนี้พอๆกับบอกเจ้านายว่า คุณขาดทักษะที่จะทำงานให้สำเร็จได้
แล้วก็ถ้าเกิดตอบสั้นๆก็บางทีอาจแปลได้ว่า คุณไม่บากบั่นจะทำความเข้าใจ ซึ่งจะส่งผลเสียเข้าไปอีก
ด้วยเหตุนี้ควรต้องเลี่ยงไปใช้คำกล่าวอื่นๆดังเช่นว่า "พวกเราจะทดลองทำเช่นไรดี"
หรือ "นี่เป็นข้อเสนอที่ดี เปิดโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้เสร็จด้วยคน"
ซึ่งจะเปิดช่องให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตัวเองได้
"ขอบคุณมากที่สังเกตเห็นสุดท้าย"
การได้รับคำชื่นชมสำหรับการให้คะแนนงานนับเป็นความเสร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ
แต่ว่าก็ไม่ควรหลงระเริงกับคำกล่าวยกย่องนั้น แม้ไม่อาจจะจัดการได้ดีพอเพียง ดังเช่น การกล่าวคำจำพวกว่า
"ขอบคุณที่มองเห็นสุดท้าย" จะก่อให้บรรยากาศกลับอึดอัด
และก็อาจจะส่งผลให้เจ้านายไม่สรรเสริญคุณอีกในอนาคต เพียงแค่ขอบคุณมาก
หรือชี้แจงถึงความบากบั่นที่เป็นเวลายาวนานกว่าจะสำเร็จก็น่าจะเพียงพอแล้ว
"ไม่ได้เกียจคร้านนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงแค่นั้น"
นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "ที่ทำงาน สเปซ" แม้กระนั้นถ้านายมิได้รู้จัก
เหตุการณ์หลังกล่าวประโยคนี้ก็จะเชิญชวนอึดอัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนายมองหน้าเพื่อ
ให้ชี้แจงถึงคำพูดดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วที่แสดงถึงความรู้สึกไม่พอใจ
รู้เทคนิค 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเทดำเนินงานให้เต็มที่
เวลาประเมินผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบสุขใจ
เผื่อได้ปรับเพิ่มเงินเดือน แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ คนใดกันแน่จะไปรู้!
มารยาท
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/